สืบสวน-สอบสวน จับกุมผู้ต้องต้องหาหลอกเอาทอง 17 บาท และเงินสดมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น.

                  ได้รับแจ้งจากนางจิราพร  รัตนวงศาโรจน์ ผู้เสียหาย ขณะที่ยืนอยู่หน้าบ้านของลูกสาว ได้มีคนร้ายที่ 1 เป็นผู้หญิง ใส่เสื้อสีดำลายเขียวเดินมาสอบถามหาหมอรักษาทางไสยศาสตร์(หมอผี)เพื่อรักษาสามีของตน ระหว่างนั้นมีคนร้ายที่ 2 เดินเข้ามาหาอ้างว่ารู้จักหมอผีและสามารถพาไปหาได้  และขอความช่วยเหลือให้ผุ้เสียหายติดตามไปด้วย  เมื่อพากันมาถึงร้านขายข้าวมันไก่ข้างโรงรับจำนำ  พบคนร้ายที่ 3 ยืนอยู่หน้าร้านจากนั้นจึงได้ชักชวนกันไปนั่งที่ร้ายนขายข้าวมันไก่  โดยคนร้ายที่ 3 บอกว่าสามารถทำพิธีสะเดาะเคราะห์ และได้ทักผู้เสียหายว่าลูกของตนเองมีเคราะห์กรรม  หากไม่ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ภูตผีจะมาเอาดวงวิญญาณ ด้วยความกลัวผู้เสียหายหลงเชื่อจึงตกลงทำพิธีสะเดาะเคราะห์ โดยคนร้ายที่ 3 ได้บอกว่าในการทำพิธีสะเดะเคราะห์ต้องนำทรัพย์มาเข้าร่วมพิธีด้วย หลังจากนั้นคนร้ายที่ 2 จึงได้พาผู้เสียหายไปเอาทรัพย์สินที่บ้านของผู้เสียหายบริเวณ  ถ.รัตนกิจ ต.เบตง จ.ยะลา

                เมื่อมาถึงบ้าน คนร้ายที่ 2 ได้ให้ผู้เสียหายนำข้าวสารจำนวน 1 กำมือ ใส่ไว้ในถุงพลาสติกแบบมีหูหิ้วสีแดง จากนั้นได้ให้ใส่ทรัพย์สินมีค่าลงในถุงดังกล่าวด้วย ซึ่งผู้เสียหายได้นำทรัพย์สินมีค่าดังนี้
           1.สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1บาท จำนวน 4 เส้น
           2.สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ น้ำหนัก 1.5 บาท  จำนวน 1 เส้น
           3. สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ น้ำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 4 เส้น
          4.สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 25 สตางค์ จำนวน 1 เส้น
          5.สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 5  เส้น
          6.สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 1 เส้น
          7. แหวนทองคำไม่มีลาย น้ำหนัก 25 สตางค์ จำนวน 4 วง
          8.แหวนทองคำมีลวดลาย น้ำหนัก 25 สตางค์ จำนวน 4 วง
          9.จี้ทองคำน้ำหนัก 25 สตางค์ จำนวน 4 อัน (สัญลักษณ์ รูปลิง ไก่ กระต่ายและงู)
       10.สร้อยคอมือทองคำ น้ำหนัก 25 สตางค์ จำนวน 2 เส้น
       11.เงินธนบัตรไทยชนิดต่างๆ มูลค่า ๓๐,๐๐๐ บาท
       12.เงินธนบัตรดอลล่าสิงคโปร์ มูลค่า ๑๔๓ ดอลล่าสิงห์โปร์
ใส่ไว่ในถุงดังกล่าวไป แล้วคนร้ายที่ 2 ได้ให้ผู้เสียหายถือถุงที่มีทรัพย์สินดังกล่าวและพาผู้เสียหายกลับมาที่ร้านเดิม

              เมื่อมาถึงร้านพบคนร้ายที่ 1 และ ที่ 2 ยืนอยู่และพากันไปตรงบริเวณข้างร้านข้าวมันไก่  มอบถุงสีแดงที่มีทรัพย์สินอยู่ภายในให้กับคนร้ายคนที่ 3  โดยคนร้ายคนที่ 3 นำถุงสีแดงใส่ไว้ในถุงสีฟ้าซึ่งคนร้ายถืออยู่ โดยคนร้ายที่ 3 เป็นคนใส่ไว้ด้วยตนเอง จากนั้นคนร้ายคนที่ 3 ได้ให้ผู้เสียหายดูภายในถุงพลาสติกสีดำ ซึ่งภายในมีขวดน้ำดื่มจำนวน 2 ขวด โดยคนร้ายที่ 3 อ้างว่าเป็นขวดน้ำมนต์ และอธิบายวิธีการดื่มน้ำมนต์ โดยการน้ำมนต์ 1 ขวดสำหรับอาบน้ำและอีกหนึ่งขวดให้นำมาปรุงอาหาร โดยตลอดเวลาที่คนร้ายคนที่ 3 อธิบายขั้นตอนอยู่นั้น 

                ผู้เสียหายได้แต่จดจ่ออยู่แต่ขวดน้ำที่อยู่ในถุงเป็นเวลาสักพักหนึ่ง  จากนั้นพบว่าคนร้ายที่ 3 ได้นำถุงผ้าสีฟ้าใส่ไว้ในถุงสีดำที่มีขวดน้ำอยู่โดยคนร้ายที่ 3 เป็นคนผูกมัดโดยใช้หูถุงทั้ง 2 ข้าง มัดเข้าด้วยกันจนแน่นแล้วมอบให้ผู้เสียหายและให้กอดแน่นๆ  และได้เริ่มทำพิธีโดยให้พนมมือและให้พูดตามคนร้าย ที่ 3 ใช้เวลาประมาณ 1 นาที จากนั้นคนร้ายที่ 3 อ้างว่าเสร็จพิธีแล้ว และย้ำว่าห้ามเปิดถุงจนกว่าจะครบกำหนด 1 เดือน ผู้เสียหายจึงได้ถือถุงกลับบ้าน น.ผู้เสียหายมีลางสังหรณ์กลัวว่าถูกคนร้ายหลอกลวง จึงได้ตัดสินใจเปิดถุง แต่เมื่อเปิดแล้วไม่พบทรัพย์สินในถุงสีแดงที่ได้ใส่ไว้ก่อนหน้านี้ กลับพบมีถุงผ้าสีฟ้าและถุงผ้าสีขาวขยำรวมกันและพบห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ภาษาเกาหลี มีน้ำยาล้างจานยี่ห้อออโม้ถูกห่ออยู่ภายใน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ และมีขวดน้ำจำนวน ๒ ขวด รวมอยู่ด้วย จึงเชื่อว่าถูกคนร้ายเอาทรัพย์สินไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เบตง

            ภายหลังจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายทั้ง 3 คน โดยสารมากับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ยาริส โดยมีคนร้ายที่ 4 เป็นผู้ขับขี่ และขณะเกิดเหตุ พบคนร้ายที่ 4 และที่ 5 จอดรถรออยู่บริเวณหน้า รร.บ้านเบตง สุภาพอนุสรณ์ ซี่งอยู่ไม่ห่างจุดทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ลักษณะจอดดูเพื่อสังเกตการณ์ และหลังจากคนร้ายที่ 1 ,2และ 3 และเมื่อกระทำความผิดสำเร็จแล้ว ได้แยกย้ายมาขึ้นรถขับหลบหนีไป และจากการสืบสวนพบว่าคนร้ายได้หลบหนีมาเปิด โรงแรม รามา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบ พบคนร้ายทั้ง 5 คน 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *